
กรุงเทพฯ ถูกจัดอันดับเมืองเหมาะทำงาน-พักผ่อนที่สุดในโลก ทำเอา บิ๊กตู่ ปลื้ม
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
รับทราบเรื่องน่ายินดีที่กรุงเทพมหานคร ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่เหมาะกับการทำงานและพักผ่อนที่สุดในโลก (The Best Cities for a Workation 2021)
ตามมาด้วยอันดับ 2 กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย อันดับ 3 กรุงลิสบอน โปรตุเกส อันดับ 4 เมืองบาร์เซโลนา สเปนอันดับ 5 กรุงบูดาเปสต์ ฮังการี ร่วมกับกรุงบัวโนสไอเรส
อาร์เจนตินา อันดับ 7 เมืองมุมไบ อินเดีย อันดับ 8 กรุงอิสตันบูล ตุรกี อันดับ 9 กรุงบูคาเรสต์โรมาเนีย และอันดับร่วมที่ 10 จ.ภูเก็ตและเชียงใหม่ ทั้งนี้ จากการจัดลำดับของ
Holidu ซึ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับการค้นหาสถานที่พักผ่อนของเยอรมัน การจัดอันดับดังกล่าว ระบุว่ากรุงเทพฯ ถือเป็นเมืองที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเป็นพื้นที่ทำงาน
และยังเป็นเมืองที่ค่าใช้จ่ายในการทำงานอยู่ในเกณฑ์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ หากดูในแง่ของการเป็นสถานที่พักผ่อน กรุงเทพฯ เป็นเมืองจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทุกระดับ
และทุกไลฟ์สไตล์สามารถสนุกเพลิดเพลินกับกิจกรรมท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ได้ไม่สิ้นสุด ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อาทิ วัดและพระราชวัง หรือสถานที่เลือกซื้อ
สิ่งของในห้างสรรพสินค้ากลางเมือง ไปจนถึงตลาดน้ำในท้องถิ่น โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า เหตุผลที่กรุงเทพฯ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่เหมาะกับการทำงานและพักผ่อนที่สุดในโลก
มาจากการพิจารณาจากหลักเกณฑ์จัดลำดับ ทั้งเรื่องความเร็วของสัญญาณ WiFi จำนวนพื้นที่สาธารณะในการทำงานหรือ Co-working space ค่าใช้จ่ายรายเดือนของที่พัก
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ รวมถึงค่าเฉลี่ยจำนวนชั่วโมงที่แดดออกต่อวัน นอกจากนี้ Holidu ยังระบุว่า ในกรุงเทพฯ
มีคนส่วนใหญ่ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เป็นเมืองที่ดึงดูดนักลงทุนและบริษัทต่างชาติจำนวนมาก จึงเป็นเมืองที่สามารถหาสถานที่พักอาศัยสำหรับนักธุรกิจ
และผู้ประกอบการได้อย่างสะดวกสบาย “นายกฯ ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมถึงประชาชนทุกคนที่ช่วยกันทำให้ประเทศไทย ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว
ที่น่าดึงดูดสำหรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจที่มองหาสถานที่ทำงานในระยะไกลในช่วงโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก รัฐบาลยืนยันความพร้อมดูแลความปลอดภัยทางด้านสาธารณสุข
และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้คนไทย นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว ใช้ชีวิต ดำเนินธุรกิจและท่องเที่ยวในไทยได้อย่างมั่นใจและสะดวกสบายยิ่งขึ้น” นายธนกรกล่าว
ขอบคุณที่มา…
ข่ า ว ส ด