สวดมนต์-ทำวัตร ทุกวัน ไม่ รอด โดนน้ำ ท่วม
สถานการณ์ เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ยังชักธงสีแดง ขึ้นสื่อสารว่าถึงจุดวิกฤติ โดยมีการปรับการระบายท้ายเขื่อน
เพิ่มขึ้นตลอดในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาล่าสุด เวลา 08.00 น. วันที่ 27 ก.ย.64 แจ้งระบายน้ำอยู่ที่ 2,500 ลบ.ม./วินาที
ซึ่งเป็นจำนวนสูงเท่าเดิม และเท่ากับเมื่อสานตอนเย็นที่เริ่มปล่อยน้ำที่ 2,500 ลบ.ม./วินาที ทำให้พื้นที่ถูกน้ำท่วมในเขต
จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ท้ายน้ำและลุ่มต่ำ เป็นแอ่งกระทะของภาคกลางนั้น มีพื้นที่รับผลกระทบถูกน้ำท่วม
ขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นไปอีก ล่าสุด เช้าวันที่ 27 ก.ย.64 ที่วัดบันไดช้าง ตั้งอยู่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ติดแม่น้ำน้อย
ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยทางวัดบันไดช้าง มีการถมดินลานวัด โดยรอบศาลา กุฎิพระสงฆ์ มาบ้างแล้ว
แต่ถึงตอนนี้ ลานวัดซึ่งได้ยกระดับแล้ว ยังถูกน้ำท่วม ขณะที่มีรายงานว่า น้ำเหนือจากเจ้าพระยา ไหลทะลักเข้าคลองเมือง
จำนวนมาก ทำให้เริ่มมีน้ำล้นตลิ่งในชุมชน “ ฝั่งตรงข้ามเกาะเมือง ” โดยเฉพาะบ้านเรือนที่อยู่ริมคลองเมืองบ้าง
พระครูอนุกูลศาสนกิจ เจ้าคณะอำเภอพระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสวัดศาลาปูน พร้อมด้วย
ว่าที่ร้อยตรี สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา และ นายกฤษณ์ เถี่ยนมิตรภาพ รองนายกเทศมนตรี ฯ
ได้นำเจ้าหน้าที่กองช่างกรอกกระสอบทราย แล้วนำไปอุดปากท่อระบายน้ำ เนื่องจากน้ำไหลย้อนเข้าท่อท่วมบ้านเรือนประชาชน
บริเวณชุมชนวัดศาลาปูน และบ้านเรือนหลังวัดพนมยงค์ ขณะนี้ได้ดำเนินการอุดท่อเรียบร้อย และกำลังสูบน้ำออก
เพื่อช่วยเหลือบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ยังได้นำเจ้าหน้าที่กองช่าง ไปสร้างสะพานไม้ ให้กับชาวชุมชนหัวแหลม
ตรงสะพานไม้เก่า ปากคลองเมือง เนื่องจากมีประมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อ น
ในการเดินทางเข้าออกระหว่างบ้านกับถนนใหญ่
ขอบคุณที่มา…
ข่ า ว ส ด